ข้ามไปที่เนื้อหา
ภาษา
ภาษา
ค้นหารถเข็น: items

คู่มือเบื้องต้นสำหรับผู้เริ่มต้น: โน้ตน้ำหอม ระดับความเข้มข้น และความคงทนของกลิ่น

Beginner’s Guide to Perfume Notes, Concentrations & Longevity

น้ำหอมไม่ใช่แค่กลิ่นหอมที่น่าพึงพอใจ — แต่มันคือเอกลักษณ์ส่วนตัว เครื่องสร้างอารมณ์ และความทรงจำที่ถูกเก็บไว้ในขวด ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มสำรวจโลกของน้ำหอม หรืออยากเข้าใจว่าทำไมกลิ่นบางแบบถึงติดทนนานกว่ากลิ่นอื่น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักพื้นฐานของ “โน้ตกลิ่นน้ำหอม” “ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม” และ “ปัจจัยที่มีผลต่อความคงทนของกลิ่น”

 

โน้ตของกลิ่นน้ำหอมคืออะไร?

น้ำหอมจะค่อย ๆ เปิดเผยกลิ่นออกมาเป็นชั้น ๆ คล้ายกับเรื่องราวหนึ่งเรื่อง โดยแต่ละชั้นเรียกว่า “โน้ตของกลิ่น” ซึ่งมีบทบาทเฉพาะตัวในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงของกลิ่นเมื่อเวลาผ่านไป ตามที่ Ejaz & Hundekari (2025) และ Ahmed et al. (2019) กล่าวไว้ โน้ตของกลิ่นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

กลิ่นแรก – ความประทับใจแรก

กลิ่นที่คุณจะได้กลิ่นทันทีเมื่อฉีดน้ำหอมครั้งแรก

 องค์ประกอบ ระยะเวลาของกลิ่น กลิ่นที่พบบ่อย
15-25% 5-15นาที กลิ่นซิตรัส (เช่น เลมอน, เบอร์กาม็อต)
กลิ่นสมุนไพรหอม (เช่น มิ้นต์, ลาเวนเดอร์)
กลิ่นผลไม้เบา ๆ (เช่น แอปเปิ้ล)

 

กลิ่นระดับกลาง - หัวใจของน้ำหอม

กลิ่นเหล่านี้จะปรากฏขึ้นหลังจากกลิ่นระดับบนจางลง และมักเป็นเอกลักษณ์หลักของน้ำหอมนั้น

 องค์ประกอบ ระยะเวลาของกลิ่น กลิ่นที่พบบ่อย
30-40% 30 นาที – 1 ชั่วโมง กลิ่นดอกไม้ (เช่น กุหลาบ มะลิ)
กลิ่นเครื่องเทศ (เช่น อบเชย กระวาน)

 

กลิ่นฐาน (Base Notes) – ความประทับใจที่คงอยู่ยาวนาน

กลิ่นในชั้นนี้ทำหน้าที่เป็นรากฐานของน้ำหอม เพิ่มความลึก อบอุ่น และหรูหราให้กับกลิ่นโดยรวม

 องค์ประกอบ ระยะเวลาของกลิ่น กลิ่นที่พบบ่อย
40-55% อยู่ได้นานหลายชั่วโมง หรืออาจยาวนานถึง 24 ชั่วโมงหลังการฉีด
กลิ่นไม้ (เช่น ไม้จันทน์หอม)
กลิ่นเรซิน (เช่น แอมเบอร์ การ์บูร)

 

สรุปแบบเข้าใจง่าย:

เคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว: ในสภาพอากาศชื้นของมาเลเซีย กลิ่นโทนบนที่สดใสจะฟุ้งชัดเจนมากขึ้น ขณะที่กลิ่นโทนฐานที่เข้มลึกจะติดทนนานบนผิว

 

ความเข้มข้นของน้ำหอม: แตกต่างกันอย่างไร?

น้ำหอมมีระดับความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยที่แตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อทั้งความเข้มของกลิ่นและระยะเวลาการคงอยู่ของกลิ่นหอม ต่อไปนี้คือการเปรียบเทียบแต่ละประเภท (Ejaz & Hundekari, 2025):

 ประเภท   ความเข้มข้น  ความติดทน      คำอธิบาย
น้ำหอมเข้มข้นระดับสูงสุด
Parfum (Extrait de Parfum)
20-30% 8–12 ชั่วโมง เข้มข้น หรูหรา และติดทนนาน
น้ำหอมเข้มข้น ให้กลิ่นชัดและติดทนนาน 
Eau de Parfum (EDP)
15-20% 6–8 ชั่วโมง กลิ่นสมดุล มีกำลังพอดีและคงความหอมได้ดี
น้ำหอมระดับกลาง กลิ่นบางเบา เหมาะกับใช้ทุกวัน
Eau de Toilette (EDT)
5-15% 3–5 ชั่วโมง กลิ่นบางเบา สดชื่น เหมาะสำหรับใช้ในทุกวัน
โคโลญจ์ กลิ่นอ่อน สดชื่น เหมาะสำหรับใช้เติมระหว่างวัน
Eau de Cologne (EDC)
2-5% 1–2 ชั่วโมง กลิ่นอ่อน สดใส ให้ความรู้สึกสดชื่นแต่จางค่อนข้างเร็ว

 

อะไรที่มีผลต่อความติดทนนานของน้ำหอม?

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาการคงกลิ่นของน้ำหอมบนผิวของคุณ ได้แก่:

  1. ความเข้มข้นของน้ำหอม (Fragrance Concentration): ยิ่งมีความเข้มข้นของน้ำหอม (น้ำมันหอมระเหย) สูง กลิ่นก็จะยิ่งติดทนนานมากขึ้น
  2. สภาพผิว (Skin Type):  ผิวมันสามารถเก็บกลิ่นน้ำหอมได้ดีกว่า เพราะมีน้ำมันธรรมชาติช่วยกักเก็บโมเลกุลของกลิ่นไว้ ในขณะที่ผิวแห้งจะทำให้น้ำหอมจางเร็วกว่า (Hadjiefstathiou et al., 2025)
  3. จุดที่ฉีดน้ำหอม (Spraying on Pulse Points): การฉีดน้ำหอมบริเวณจุดชีพจร เช่น ลำคอ ข้อมือ และหลังใบหู จะช่วยกระตุ้นโมเลกุลของกลิ่นด้วยความร้อนจากร่างกาย ทำให้กลิ่นฟุ้งและคงอยู่นานขึ้น (Gould, 2025)
  4. สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม (Environment & Weather): ความชื้นและอุณหภูมิโดยเฉพาะในภูมิอากาศเขตร้อนอย่างมาเลเซีย มีผลต่อการระเหยของน้ำหอม — ความร้อนและความชื้นสูงจะเร่งการระเหย ทำให้กลิ่นจางเร็วขึ้น (Ejaz & Hundekari, 2025)

 

บทส่งท้าย

การเข้าใจเรื่อง โน้ตของน้ำหอม ระดับความเข้มข้นของกลิ่น และเคมีของผิวแต่ละคน คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกน้ำหอมที่เหมาะกับร่างกาย สภาพอากาศ และไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันของคุณได้อย่างลงตัว

ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบกลิ่นที่ บางเบา สดชื่น แบบ Eau de Cologne หรือกลิ่นที่ เข้มข้น ติดทนนาน อย่าง Extrait de Parfum  ย่อมมีน้ำหอมที่เหมาะกับตัวคุณอยู่เสมอ และเมื่อคุณรู้จักวิธีการใช้อย่างถูกต้อง กลิ่นหอมเหล่านั้นก็จะอยู่กับคุณได้นานยิ่งขึ้น

 

บรรณานุกรม

  1. Ahmed, N. D., Naziya, S., Supriya, K., Syed, A., Ahmed, G., Kalyani, S., Ganeshwari, K., Knv, R., Rajeshwar, D., Ahmed, N., Gnaneshwari, K.N.V., Rao, K.R., & Dutt. (2019). World Journal of Pharmaceutical Sciences A Review on Perfumery. World Journal of Pharmaceutical Sciences, 7(4). 56-68.  https://www.researchgate.net/publication/332875615_World_Journal_of_Pharmaceutical_Sciences_A_Review_on_Perfumery 

  2. Ejaz, K.A.K., Qureshi, N. & Hundekari, B. (2025). Formulation and Evaluation of Perfume: A Comprehensive Review. International Journal of Innovative Research in Technology, 11(11). 6726-6733. https://ijirt.org/publishedpaper/IJIRT176588_PAPER.pdf?

  3. Gould, W. R. (2025, February 25). How to Make Perfume Last Longer, According to Fragrance Experts. Real Simple. https://www.realsimple.com/beauty-fashion/makeup/fragrance/how-to-make-your-perfume-last-longer 

  4. Hadjiefstathiou, E., Savary, G., Malhia, C., Terescenco, D. & Picard, C. (2025). Exploring the impact of fragrance molecular and skin properties on the evaporation profile of fragrances. International Journal of Cosmetic Science. https://doi.org/10.1111/ics.13085

 

รถเข็น

รถเข็นของคุณว่างเปล่า